วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

บารัค โอบามา ประธานาธิบดีคนที่ 44 แห่งสหรัฐอเมริกา



นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชายคนนี้นะครับ กับ บารัค โอบามา ( Barack Obama) ประธานาธิบดีคนที่44แห่งสหรัฐอเมริกา และนับได้ว่าเขาเป็นผู้นำที่คนทั้งโลกให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ บารัค โอบามา มีชื่อเต็มว่า บารัค ฮุสเซน โอบามา ที่ 2 (Barack Hussein Obama II) เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. เขาเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนที่ 5 ที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็น สมาชิกวุฒิสภาในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนเดียว ที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา


โอบามาเกิดที่เมืองโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย บิดาเป็นชาวเคนยา มารดาเป็นชาวอเมริกัน เมื่ออายุได้ 6 ขวบ มารดาแต่งงานใหม่กับชาวอินโดนีเซีย และย้ายไปอยู่ที่จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กับแม่และพ่อเลี้ยงของเขาเป็นเวลา 4 ปี โอบามาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด เคยทำงานเป็นผู้จัดการวงการสังคม, อาจารย์มหาวิทยาลัย และทนายสิทธิพลเมืองมาก่อนที่จะหันมาสนใจการเมือง เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ ในปี ค.ศ. 1997 ถึง ค.ศ. 2004 เคยสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาในการเลือกตั้งปี 2000 แต่ไม่ชนะการเลือกตั้ง จึงเริ่มหาเสียงในการสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2003


โอบามาได้กล่าวว่า "ประเทศนี้ไม่มีอเมริกาเสรีนิยมกับอเมริกาอนุรักษ์นิยมแค่นั้น แต่ที่นี่คือประเทศสหรัฐอเมริกา" ซึ่งเป็นสุนทรพจน์สำคัญในการประชุมประชาธิปไตยแห่งชาติปี 2004 ขณะที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐอิลลินอยส์ จากนั้นได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายน ปี 2004 ด้วยคะแนนเสียงกว่า 70%

ชื่อของโอบามาต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา เพราะเขาเป็นอเมริกันผิวสีคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา และเป็นคนที่ 3 ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน[40] เขาเป็นสมาชิกวุฒิสภาเพียงคนเดียวที่เป็นสมาชิกของ Congressional Black Caucus นิตยสาร CQ Weekly นิตยสารที่เป็นกลางของสหรัฐอเมริกาได้ยกย่องโอบามาว่าเป็น "นักประชาธิปไตยผู้ซื่อสัตย์" จากผลการวิเคราะห์การโหวตให้คะแนนเสียงสมาชิกวุฒิสภาทั่วประเทศในปี 2005-2007 และนิตยสาร National Journal ก็จัดว่าเขาเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่"มีความเป็นเสรีนิยมมากที่สุด" จากการโหวตในปี 2007

ในระหว่างการทำหน้าที่ในสภาคองเกรสที่ 109 นั้น โอบามาได้เรียกร้อง ให้มีการควบคุมการใช้อาวุธ และเรียกร้องให้มีการแถลงการใช้จ่ายเงินของรัฐบาล ให้สาธารณชนได้ทราบด้วย นอกจากนั้น ในช่วงนี้ เขายังเคยไปเยือนยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกาอย่างเป็นทางการด้วย ในสภาครองเกรสที่ 110 หรือสภาปัจจุบันนั้น เขาก็ได้เรียกร้องให้มีการดูแลอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงหรือโลกร้อน การก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และให้การดูแลทหารผ่านศึกสหรัฐ

Brand New Day : Lady garden mini-album



Comme chaque année dans l'industrie de la musique coréenne, on doit s'attendre aux débuts de nouveaux artistes. Cette année, c'est un groupe de fille qui se lance en premier.


Elles sont 3 et le nom de leur groupe est Brand New Day. Je n'ai aucune informations concernant les membres du groupe.Leur premier mini album s'intitule Lady Garden. Il contient 7 chansons dans le genre pop/électro.La deuxième chanson Sarangeun Oebda est une chanson rythmée par le son des violons accompagnée par un son éléctro au refrain. Une première chanson qui nous montre la puissance des voix des chanteuses.La troisième chanson me fait un peu penser à la chanson U R Man des SS501.La quatrième chanson ressemble un peu à la deuxième puisqu'on retrouve du violon et un son électro, mais elle a l'air un peur plus triste.La cinquième chanson Popo est quand à elle complètement différente des autres. Toujours avec un son électro mais plus joyeuse.Enfin la 6ème chanson on revient au style pop/électro avec une partie rap.


Bien que leur style de musique soit pop/électro, les chanteuses ont vraiment un potentiel au niveau de leur voix.Un bon groupe pour cette nouvelle année... on leur souhaite de réussir dans ce marché où la concurrence est rude.


Brand New Day - Lady Garden mini album

01 Intro

02 Sarangeun Oebda

03 Salmanhae

04 Heonsinjjak

05 Popo

06 Kkumseokeui

07 Salmanhae (instru)--> Download mediafire



วันตรุษจีน

ตรุษจีน หรือ เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ (ตัวเต็ม: 春節, ตัวย่อ: 春节, พินอิน: Chūnjíe ชุนเจี๋ย) หรือ ขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ (ตัวเต็ม: 農曆新年, ตัวย่อ: 农历新年, พินอิน: Nónglì Xīnnián หนงลี่ ซินเหนียน) และยังรู้จักกันในนาม วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามประเพณีของชาวจีนในจีนแผ่นดินใหญ่และชาวจีนโพ้นทะเลทั่วโลก เทศกาลนี้เริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 ของปีตามจันทรคติ (正月 พินอิน: zhèng yuè เจิ้งเยฺว่) และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งจะเป็นเทศกาลประดับโคมไฟ (ตัวเต็ม: 元宵節, ตัวย่อ: 元宵节, พินอิน: yuán xiāo jié หยวนเซียวเจี๋ย)

คืนก่อนวันตรุษจีน ตามภาษาจีนกลางเรียกว่า 除夕 (พินอิน: Chúxì ฉูซี่) หมายถึงการผลัดเปลี่ยนยามค่ำคืน

ตรุษจีน มีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ตรุษจีนถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติที่อยู่รายรอบ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เมี่ยน ม้ง มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองต่างกันไป ในประเทศไทย



ตรุษจีนในประเทศไทย

ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่

วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ในตอนค่ำจะมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้าที่ หรือ ตี่จู๋เอี๊ย ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการะบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้ว

วันไหว้ คือ วันสิ้นปี จะมีการไหว้ 3 ครั้ง คือ
ตอนเช้ามืดจะไหว้ ไป๊เล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง (ซาแซ ได้แก่ หมูสามชั้นต้ม ไก่ เป็ด ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดอื่นได้ หรือมากกว่านั้นได้จนเป็นเนื้อสัตว์ห้าชนิด) เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
ตอนสาย จะไหว้ไป๊เป้บ๊อ คือการไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว ตอนบ่าย จะไหว้ ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล

วันขึ้นปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ คือวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่งของปี (ชิวอิก) วันนี้ ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน คือ ไป๊เจีย คือ การไปไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยนำส้มสีทองไปมอบให้ เหตุที่ให้ส้มก็เพราะออกเสียงภาษาจีนแต้จิ๋วว่า "กา" ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำโชคดีไปให้ จะมอบส้มจำนวน 4 ผล ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย เหตุที่เรียกวันนี้ว่าวันถือคือ เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นสิริมงคล งดการทำบาป จะมีคติถือบางอย่าง เช่น ไม่พูดจาไม่ดีต่อกัน ไม่ทวงหนี้กัน ไม่จับไม้กวาด และจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่แล้วออกเยี่ยมอวยพรและพักผ่อนนอกบ้าน เป็นต้น




เกร็ด

สัญลักษณ์อีกอย่างของเทศกาลนี้ คือ อั่งเปา (ซองแดง) คือ ซองแดงใส่เงินที่ผู้ใหญ่แล้วจะมอบให้ผู้น้อย และมีการแลกเปลี่ยนกันเอง หรือ หรือจะใช้คำว่า แต๊ะเอีย (ผูกเอว) ที่มาคือในสมัยก่อน เหรียญจะมีรูตรงกลาง ผู้ใหญ่จะร้อยด้วยเชือกสีแดงเป็นพวงๆ และนำมามอบให้เด็กๆ เด็กๆ ก็จะนำมาผูกเก็บไว้ที่เอว

ในเทศกาลนี้ ชาวจีนจะกล่าวคำ ห่ออ่วย หรอคำอวยพรภาษาจีนให้กัน หรือมีการติดห่ออ่วยไว้ตามสถานที่ต่างๆ คำที่นิยมใช้กันได้แก่
新正如意 新年發財 / 新正如意 新年发财 (แต้จิ๋ว: ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ จีนกลาง: ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) แปลว่า ขอให้ประสบโชคดี ขอให้มั่งมีปีใหม่

恭喜發財 / 恭喜发财 (จีนกลาง: กงฉี่ฟาฉาย)

เกียฮ่อซินนี้ ซินนี้ตั้วถั่น แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ร่ำรวยๆ

อีกฝ่ายก็จะกล่าวตอบว่า ตั่งตังยู่อี่ แปลว่า ขอให้สุขสมหวังเช่นกัน